เรื่องเดิม
     พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๒๒ ให้พิจารณาพัฒนาพื้นที่ที่ราษฎรน้อมเกล้าฯ ถวายที่ตำบลเขาหินซ้อนอำเภอพนมสารคามจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยให้ดำเนินการสำรวจดินอย่างละเอียด เพื่อจัดแบ่งส่วนให้เป็นประโยชน์ต่อการที่จะให้ผู้สนใจได้มาศึกษาเรียนรู้ ในด้านการชลประทาน การเกษตรกรรม การปศุสัตว์ การประมง ตลอดจนการสาธิตอุตสาหกรรมในครัวเรือน และให้ดำเนินงานเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาการเกษตรที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งจะเป็นสถานที่ให้เกษตรกร และผู้สนใจได้เข้าชมศึกษาค้นคว้าหาความรู้และนำไปปฏิบัติตามพร้อมส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านรวมทั้งพัฒนาพื้นที่รอบศูนย์ศึกษาฯบริเวณลุ่มน้ำโจนให้มีความเจริญเป็นตัวอย่างแก่การพัฒนาพื้นที่อื่นต่อไป

ผลการดำเนินงาน
๑.งานศึกษาวิจัย
๒.การขยายผลการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้
๓.โครงการนิทรรศการวันครบรอบสถาปนาศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ
๔.แนวทางการดำเนินงานโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด - ๑๙)

ประโยชน์ที่ได้รับ
     การพัฒนาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ศูนย์ฯ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านต่าง ๆ ให้แก่เกษตรกรรอบศูนย์ และผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษา เพื่อให้สามารถนำความรู้กลับไปใช้ประโยชน์ได้จริง ดังนี้
     ๑. ด้านการขยายผลความรู้ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ได้นำผลสำเร็จจากการวิจัยขยายผลไปสู่เกษตรกรพื้นที่รอบศูนย์ฯ จำนวน ๔๓ หมู่บ้าน ๑๒,๔๐๓ ครัวเรือน และ การนำตัวอย่างแห่งความสำเร็จที่เกษตรกรสามารถนำไปปฏิบัติตามจนเกิดผลสำเร็จในอาชีพ โดยศูนย์ฯ สามารถคัดเลือกและนำมาจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายเพื่อขยายผลองค์ความรู้ได้ จำนวน ๑๕ แห่ง และจัดตั้งกลุ่มอาชีพ จำนวน ๑๘ กลุ่ม ผลจากการพัฒนาอาชีพ   ทำให้เกษตรกรในพื้นที่รอบศูนย์ฯ มีความเป็นอยู่ดีขึ้นมีรายได้เฉลี่ยประมาณปีละ ๖๐,๐๐๐ บาท ต่อคน
     ๒. การถ่ายทอดส่งเสริมความรู้ไปสู่เด็กและเยาวชนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและสระแก้ว รวม ๑๔ โรง ซึ่งศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตลอดจนการขยายผลสู่ผู้ปกครองของนักเรียนให้ได้ความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ จึงได้ดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเกษตร ส่งเสริมการทำผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในครัวเรือน ส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางด้านอาหาร สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

     ๓. การสนับสนุนและอนุรักษ์สัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ไก่เขาหินซ้อน ไก่พื้นเมืองพันธุ์เหลืองหางขาว เป็ดไข่พื้นเมืองพันธุ์ปากน้ำ ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงเพื่อนำไปผลิตทดแทนเป็นพันธุ์ใหม่รุ่นต่อไป
     ๔. ในแต่ละปีมีจำนวนผู้เข้ารับการอบรมและศึกษาดูงาน การขอรับบริการด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น ปุ๋ยน้ำชีวภาพ การทำอาหารแปรรูป การถนอมอาหาร ตลอดจนเป็นสถานที่
ถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับผลความสำเร็จของศูนย์ฯ โดยระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๓ มีผู้เข้าเยี่ยมชมศูนย์ฯ เป็นจำนวนทั้งสิ้น  ๔๔,๙๐๓ คน
    ๕. การขยายผลสำเร็จของศูนย์ศึกษาฯ ให้แก่ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาอบรม ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๓ มีผู้รับการฝึกอบรม เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๕๕๐ คน

สามารถดาวโหลดไฟล์ PDF ได้ที่นี่