1. คุณภาพน้ำในเขตโครงการ
เนื่องจากพื้นที่โครงการด้านทิศตะวันตกอยู่ติดกับพรุโต๊ะแดงซึ่งเป็นป่าพรุขนาดใหญ่มีน้ำท่วมขังตลอดเวลา คุณภาพน้ำมีความเป็นกรดสูง โดยปกติน้ำจากพรุโต๊ะแดงจะไหลลงทะเลได้ 2 ทาง คือ
1) ผ่านทางคลองระบายน้ำแบ่ง คลองบางเตย คลองสุไหงปาดี และแม่น้ำบางนราตอนล่างในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำบางนรา
2) ผ่านทางคลองระบายน้ำโคกไผ่ โคกอิฐ โคกกระท่อม คลองลาน คลองโต๊ะแดง คลองระบายน้ำสายที่ 6 คลองระบายน้ำสายที่ 16 คลองระบายปลักปลา โคกกระท่อม และคลองระบายน้ำสายที่ 11 14 ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำโก-ลก จากการ ตรวจวัดค่า PH ในช่วงปี 2541 2544 สรุปได้ดังนี้
แม่น้ำโก-ลก บริเวณปากคลองระบายน้ำมูโนะ วัดค่า pH ได้ 6.0-8.0
คลองมูโนะ กม.13+000 บริเวณปากคลองส่งน้ำโคกกูแววัดค่า pH ได้ 5.57.0
ประตูระบายน้ำปลายคลองมูโนะ ช่วงปกติวัดค่า pH ได้ 6-6.5 ช่วงอุทกภัย (มีน้ำเสียจากพรุโต๊ะแดงไหลมารวม) วัดค่า pH ได้ 5.5-6.9
ประตูระบายน้ำปลายคลองโต๊ะแดง ช่วงปกติวัดค่าpH ได้ 6.0-7.0ในช่วงอุทกภัย (มีน้ำเสียจากพรุโต๊ะแดงไหลมารวม) วัดค่า pH ได้ 3.8-6.8
น้ำเสียจากพรุโต๊ะแดงที่ระบายผ่านคลองโคกอิฐ โคกกระท่อม คลองปลักปลา คลองโคกไผ่ และคลองลาน วัดค่า pH ได้ 3.5-5.0
2. การบริหารงานส่งน้ำ
2.1 การส่งน้ำโดยระบบ (gravity) พื้นที่เพาะปลูกที่สามารถส่งน้ำโดยระบบ gravity ได้คือ พื้นที่ในเขตตำบล เกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 9,000 ไร่ การส่งน้ำในพื้นที่บริเวณนี้ จะปิดประตูระบายน้ำปลายคลอง มูโนะ (ปูยู) เพื่อยกระดับน้ำในสูงขึ้น โดยจะควบคุมระดับน้ำที่ +1.200 ถึง +1.500 เมตร (รทก.) น้ำจะไหลเข้าท่อระบายน้ำปากคลองสายใหญ่แล้วกระจายสู่พื้นที่เพาะปลูก โดยผ่านคลองซอยและคูส่งน้ำสายต่างๆ ระยะเวลาการส่งน้ำแต่ละครั้งจะพิจารณาจากปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำในแปลงนา ประกอบกันโดยเน้นไม่ให้เกิดการขาดน้ำในช่วงข้าวตั้งท้องเพราะจะทำให้ผลผลิตลดลงมาก
2.2 การส่งน้ำโดยระบบ Pumping พื้นที่เพาะปลูกที่ส่งน้ำโดยระบบ Pumping ประกอบด้วย พื้นที่โครงการโคกกูแว ประมาณ 5,650 ไร่ ในเขตตำบลพร่อน ตำบลบางขุนทอง อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และพื้นที่โครงการเกษตรแบบผสมผสานมูโนะ ประมาณ 1,000 ไร่ ในเขตตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส การส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูก รายละอียดดังนี้
พื้นที่โครงการโคกกูแว วิธีการส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกกระทำได้ 2 วิธี คือ ใช้วิธีปิดประตูระบายน้ำปลายคลองมูโนะ เพื่อยกระดับน้ำในคลองมูโนะให้สูงขึ้น จนไหลเข้าคลองส่งน้ำสายใหญ่และสายซอย แล้วกระจายสู่พื้นที่เพาะปลูก แต่ในกรณีที่น้ำในคลองลุ่มน้ำโก-ลกมีปริมาณน้อย การอัดน้ำที่ประตูระบายน้ำปลายคลองมูโนะ ไม่สามารถยกระดับน้ำให้ไหลเข้าคลองส่งน้ำได้จะใช้ระบบสูบน้ำเข้าช่วยเพื่อส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูก
พื้นที่โครงการเกษตรแบบผสมผสานมูโนะ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีระดับสูงกว่าระดับน้ำสูงสุดในคลองระบายน้ำมูโนะ การส่งน้ำโดยระบบแรงโน้มถ่วงไม่สามารถกระทำได้ ดังนั้น การส่งน้ำตลอดฤดูกาลเพาะปลูก จะใช้ระบบสูบน้ำแล้วกระจายสู่พื้นที่เพาะปลูก โดยคูส่งน้ำดาดคอนกรีตสายต่าง ๆ ซึ่งสามารถส่งให้ได้ตามความต้องการตลอดเวลา
3. การส่งน้ำโดยใช้คลองระบายน้ำ
วัตถุประสงค์ในการก่อสร้างโครงการฯ ลุ่มน้ำโก-ลก ในระยะแรกเพื่อต้องการบรรเทาอุทกภัย โดยคลองระบายน้ำมูโนะและคลองระบายน้ำสายต่าง ๆ จะช่วยระบายน้ำที่ท่วมขังลงทะเลได้รวดเร็วขึ้น หลังจากสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมขังได้ ราษฎรได้เริ่มทำการเกษตร ดังนั้น จึงต้องมีการปรับเอาระบบระบายน้ำมาทำหน้าที่ส่งน้ำด้วย พื้นที่ซึ่งรับน้ำจากคลองระบาย พื้นที่ซึ่งอยู่นอกเขต การส่งน้ำใน 2 วิธีแรก คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 73,000 ไร่ การส่งน้ำจะใช้วิธีปิดประตูระบายน้ำปลายคลองลุ่มน้ำโก-ลก เพื่อยกระดับน้ำให้สูงขึ้นแล้วไหลเข้าแปลงเพาะปลูกเป็นการส่งน้ำแบบย้อนทิศทางกับ Slope ก้นคลอง
4. การระบายน้ำในช่วงอุทกภัย
เมื่อเกิดสภาวะฝนตกติดต่อกัน 1-2 วัน มีแนวโน้มจะตกติดต่อกันจนเกิดอุทกภัยวิธีการจัดการน้ำ คือ จะปิดประตูระบายน้ำปลายคลองลุ่มน้ำโก-ลก เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากแม่น้ำโก-ลก ไหลเข้ามาในเขตโครงการ หลังจากนั้นจะเปิดประตูระบายน้ำปลายคลองระบายน้ำลุ่มน้ำโก-ลกเพื่อระบายน้ำในพื้นที่ออกให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันจะปิดบานระบายอาคารที่รับน้ำจากพรุโต๊ะแดงทุกแห่งเพื่อขังน้ำไว้ในพรุก่อนเป็นลักษณะใช้พรุโต๊ะแดงเป็นแก้มลิง เมื่อน้ำในพื้นที่ลดลงอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร จะเริ่มเปิดบานระบายอาคารรับน้ำจากพรุโต๊ะแดงเข้ามาในคลองระบายน้ำของโครงการเพื่อระบายน้ำลงทะเลต่อไป
5. การควบคุมระดับน้ำในพรุโต๊ะแดงช่วงฤดูแล้ง
พรุโต๊ะแดงเป็นป่าพรุขนาดใหญ่ ในฤดูแล้งถ้าระดับน้ำในพรุลดลงมากจนผิวดินแห้ง แร่ธาตุต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในดินจะทำปฏิกิริยากับอากาศ ทำให้เกิดไฟไหม้ป่า ปรากฏการณ์นี้ จะเกิดได้ยากมาก แต่โดยทั่วไปแล้ว สาเหตุไฟไหม้พรุโต๊ะแดง เกิดจากราษฎรเผาป่าเพื่อขยายพื้นที่ทำการเกษตรและที่อยู่อาศัย ซึ่งทำความเสียหายต่อพันธุ์ไม้ สัตว์ป่าชนิดต่างๆ ดังนั้น จึงมีความ จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำ ที่อาคารบังคับน้ำรอบขอบพรุไม่ให้มีระดับต่ำเกินไป โดยทั่วไปจะควบคุมระดับน้ำไว้ที่ +1.200 เมตร (รทก.) ซึ่งต้องมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบระดับน้ำและปิด - เปิดบานระบายอยู่เป็นประจำตามช่วงเวลาที่เหมาะสม
6. ปัญหาการบริหารงานส่งน้ำและแนวทางแก้ไข
6.1 การส่งน้ำโดยใช้คลองระบายน้ำ
พื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการจะส่งน้ำ โดยใช้คลองระบายทำหน้าที่คลองส่งน้ำ ด้วยเป็นการส่งน้ำในลักษณะย้อนทิศทางกับ Slope ก้นคลอง ปัญหาคือไม่สามารถยกระดับน้ำให้มีระดับสูงเพียงพอที่จะส่งให้พื้นที่เพาะปลูกอย่างทั่วถึง ดังนั้น จึงมีพื้นที่อีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับน้ำ ประกอบกับการส่งน้ำ โดยวิธีนี้จะทำให้เกิดปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างราษฎรอยู่เป็นประจำ กล่าวคือ ราษฎรซึ่งมีพื้นที่อยู่ใกล้กับตัวอาคารอัดน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มและได้รับน้ำก่อน เมื่อปริมาณน้ำพอเพียงแล้วต้องการให้เปิดบานระบายอาคารอัดน้ำ ในขณะเดียวกันพื้นที่ซึ่งยังไม่ได้รับน้ำ ต้องการให้ปิดบานระบายเพื่ออัดน้ำต่อไป เกิดเป็นข้อพิพาทอยู่เสมอ การใช้คลองระบายเพื่อวัตถุประสงค์ระบายน้ำ สามารถทำได้ผลดีในระดับที่น่าพอใจ แต่เมื่อนำมาใช้เป็นระบบส่งน้ำ ด้วยจะมีข้อจำกัดมาก การจะเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก ปรับปรุงคุณภาพดินและน้ำให้ดีขึ้น จำเป็นต้องมีการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมดังนี้
ปีงบประมาณ 2544 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำโก-ลก ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำกลางคลองมูโนะ (ประตูระบายน้ำกลางคลองมูโนะ) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บริเวณบ้านโคกกูแว หมู่ที่ 5 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส บริเวณท้ายโรงสูบน้ำโคกกูแว เพื่อยกระดับน้ำให้ไหลเข้า คลองระบายน้ำสายที่ 4, 6, 9 และเข้าคลองส่งน้ำโคกกูแว การก่อสร้างอาคารที่จุดนี้จะเกิดผลดีต่อพื้นที่โครงการโคกกูแวและพื้นที่ใกล้เคียงได้ เพราะโดยปกติการส่งน้ำให้พื้นที่บริเวณนี้จะใช้วิธีอัดน้ำที่ประตูระบายน้ำปลายคลองลุ่มน้ำโก-ลก โดยต้องควบคุมระดับน้ำให้มากกว่า + 1.500 เมตร (รทก.) น้ำจึงจะไหลเข้าคลองส่งน้ำโคกกูแวอย่างสะดวก การอัดน้ำในระดับนี้เกินระดับ ที่ออกแบบไว้ อาจเป็นอันตรายต่อตัวอาคาร และมีปัญหาน้ำไหลข้ามอาคารระบายน้ำล้นคันกั้นน้ำปะลุกา-โคกยาง เข้าไปท่วมบ้านเรือนราษฎร ดังนั้นเมื่อก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมที่จุดนี้แล้ว สามารถส่งน้ำโดยระบบแรงโน้มถ่วงได้โดยตรง ทำให้ประหยัดค่ากระแสไฟฟ้าและสามารถขยายพื้นที่เพาะปลูกบริเวณฝั่งซ้ายคลองโคกไผ่ บริเวณบ้านโคกชุมบก บ้านวัดใหม่ ได้อีกประมาณ 1,400 ไร่ ส่วนปริมาณน้ำที่เหลือจะระบายผ่านคลองแขก คลองบางเตยลงแม่น้ำบางนรา ซึ่งจะช่วยเจือจางความเป็นกรดของแม่น้ำบางนราตอนล่างและคลองน้ำแบ่งให้มีค่า pH ดีขึ้น
สำหรับปัญหาน้ำต้นทุนของโครงการในช่วงฤดูแล้ง ขณะนี้ได้มีการก่อสร้างโครงการผันน้ำจืดมาเพิ่มเติมให้คลองมูโนะ (โครงการปาเสมัส) ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี (ปี 2540 2546) เมื่อก่อสร้างเสร็จจะเกิดประโยชน์กับโครงการเป็นอย่างมาก โดยในช่วงฤดูแล้งจะมีน้ำจืดส่งให้ราษฎรได้ใช้เพื่ออุปโภค บริโภคและการเกษตรได้อย่างเพียงพอ
6.2 การระบายน้ำในเขตโครงการ
บริเวณฝั่งซ้ายของแม่น้ำโก-ลก มีการก่อสร้างคันกั้นน้ำตลอดแนว ทำให้สามารถป้องกันอุทกภัยจากแม่น้ำ โก ลก ได้ในระดับหนึ่ง การระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ระบบระบายน้ำ ในปัจจุบันสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนที่ยังควบคุมไม่ได้คือ น้ำเสียจากพรุโต๊ะแดง เนื่องจากยังไม่มีคันกั้นน้ำรอบพรุโต๊ะแดงและคันกั้นน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบันบางช่วงมีระดับต่ำ ในฤดูฝนน้ำเสียจากพรุโต๊ะแดงจะไหลข้ามคันกั้นน้ำเข้ามาในเขตโครงการ ประกอบกับเมื่อต้องการระบายน้ำจากพรุโต๊ะแดงให้ไหลลงทะเล คลองระบายน้ำสายต่างๆ ประกอบด้วย คลองโคกอิฐ คลองโคกกระท่อม คลองปลักปลา มีขนาดเล็กทำให้การระบายน้ำในพรุให้กลับคืนสู่สภาพปกติ ใช้ระยะเวลานาน มีผลกระทบต่อพันธุ์ไม้ธรรมชาติในพรุ จากผลการศึกษา ระยะเวลาที่น้ำท่วมขังในพรุไม่ควรเกิน 15 วัน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องก่อสร้างคันกั้นน้ำรอบพรุและขุดขยายคลอง ระบายน้ำสายต่างๆ พร้อมอาคารประกอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมน้ำในพรุโต๊ะแดงและโครงการขุดขยายคลองโคกไผ่ คลองลาน ความยาว 7.095 กิโลเมตร (ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2540 ) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำได้มากขึ้น
7. ปัญหาและอุปสรรค
พื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการส่งน้ำโดยใช้คลองระบาย จึงเป็นการส่งน้ำในทิศย้อนทางกับ Slope คลอง ปัญหา คือ ไม่สามารถยกระดับน้ำให้มีระดับสูงพอที่จะส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกอย่างทั่วถึง ส่วนราษฎรที่มีพื้นที่อยู่ใกล้ตัวอาคารซึ่งได้รับน้ำก่อน และเมื่อได้ในปริมาณที่เพียงพอแล้วก็จะปิดอาคารในขณะที่ราษฎรที่มีพื้นที่อยู่ไกล ๆ ยังไม่ได้รับน้ำ ซึ่งในกรณีที่ใช้เป็นคลองส่งน้ำด้วยต้องมีการสร้างอาคารชลประทานเพิ่มขึ้น
ปัญหาด้านการระบายน้ำและแนวทางแก้ไข บริเวณฝั่งซ้ายแม่น้ำโก-ลก มีการสร้างคันกั้นน้ำตลอดแนวทำให้สามารถป้องกันอุทกภัยจากแม่น้ำโก-ลก ได้ในระดับหนึ่ง การระบายน้ำในพื้นที่ ปัจจุบันสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนที่ยังควบคุมไม่ได้ คือน้ำเสียจากพรุโต๊ะแดง เนื่องจากไม่มีคันกั้นน้ำรอบพรุโต๊ะแดง และคันที่มีอยู่บางช่วงมีระดับต่ำ รวมทั้งคลองระบายน้ำสายต่างๆ มีขนาดเล็ก จึงจำเป็นต้องมีการก่อสร้างคันกั้นน้ำรอบขอบพรุและขุดขยายคลองระบายต่าง ๆ พร้อมอาคารประกอบขึ้น