1. สมาชิกโครงการ ฯ จำนวน 173 ครอบครัว ประกอบด้วย
1) บ้านค้อ จำนวน 67 ครอบครัว
2) บ้านแปดอุ้ม จำนวน 101 ครอบครัว
3) บ้านโนนสูง จำนวน 5 ครอบครัว
2. กลุ่มอาชีพของราษฎร จำนวน 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
1) กลุ่มเกษตรกรรม
1.1) ทำนา จำนวน 156 ราย
1.2) ทำไร่ จำนวน 17 ราย
3. กลุ่มอาชีพเสริม
1) เลี้ยงเป็ด-ไก่ จำนวน 120 ราย
2) เลี้ยงโค จำนวน 19 ราย
3) เลี้ยงปลา จำนวน 156 ราย
4) ทอผ้าไหม จำนวน 19 ราย
5) ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จำนวน 26 ราย
6) เพาะเห็ด จำนวน 6 ราย
7) ปลูกหญ้ารูซี จำนวน 40 ราย
8) ปลูกพืชผักสวนครัว จำนวน 40 ราย
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีบริเวณชายแดนด้านที่ติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาวและประเทศกัมพูชาประชาธิปไตยในเขตอำเภอน้ำยืน เป็นพื้นที่ภูเขาสูงสลับซับซ้อนเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่มีความสมบูรณ์ พื้นที่ส่วนนี้มีความสำคัญในทางทหารเป็นอย่างยิ่ง หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถมีอิทธิพลเข้าควบคุมไว้ได้แล้ว จะได้เปรียบในยุทธศาสตร์เชิงรุกที่มีความสำคัญต่อการรักษาความมั่นคงตลอดเวลา
จากความสำคัญของพื้นที่ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าในสถานการณ์ที่ประเทศไทยถูกแทรกซึมบ่อนทำลายจากลัทธิคอมมิวนิสต์ในอดีต พื้นที่ส่วนนี้กลายเป็นฐานที่มั่นกองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อาศัยการสนับสนุนอุปถัมภ์และมีหลังอิงจากประเทศเพื่อนบ้าน ประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนได้รับผลกระทบ ถูกรบกวน จับกุมกวาดต้อนลงไปอบรมลัทธิคอมมิวนิสต์ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เหตุการณ์จับกุมกวาดต้อนราษฎรบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ รวมทั้งเผาบ้านเรือนของราษฎรทั้งหมู่บ้านประมาณ 80 ครอบครัว เมื่อปลายปี 2520 เป็นต้น
ถึงแม้สถานการณ์การคุกคามของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์จะคลี่คลาย ภายหลังปี 2524 แล้ว พื้นที่บริเวณนี้ยังคงถูกคุกคามเข้ายึดครองจากกองกำลังต่างชาติในเวลาต่อมาอีก จะเห็นได้ว่าได้มีการสู้รบกับกองกำลังต่างชาติที่ล้วงล้ำเข้ามายึดครองดินแดนไทยอย่างรุนแรงในห้วงปี 2527 - 2531 ผลการสู้รบดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ สูญเสียทรัพย์สินของราษฎรไทย พื้นที่มีความระส่ำระสาย ประชาชนเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพห่างไกลหมู่บ้านได้เป็นเวลาหลายปี จึงส่งผลกระทบซ้ำเติมทำให้เกิดปัญหาความอดอยากยากจน เป็นผลต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ผลกระทบจาการสู้รบดังกล่าว ทำให้ทรงทราบถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานทำการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยพลาญเสือ ที่บ้านโนนสูง อ่างเก็บน้ำห้วยจันลา ที่บ้านจันลา ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน เพื่อจัดหาน้ำช่วยการเพาะปลูกของราษฎร เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2532 พื้นที่อ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งสามารถเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและเพื่อการชลประทานรวมทั้งสิ้น 65 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อมากรมชลประทานได้ทำการก่อสร้างระบบส่งน้ำคลองสายหลัก คลองสายซอย สามารถกระจายน้ำช่วยเหลือการเพาะปลูกของราษฎรตามลุ่มน้ำได้ผลแล้วระดับหนึ่ง |