|
|
หน่วยงานผู้ดำเนินงาน /หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง : |
1. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เกษตรจังหวัดเพชรบุรี
2. สำนักงานป่าไม้จังหวัดเพชรบุรี ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี
3. อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี
4. หน่วยเฉพะกิจกรมทหารราบที่ 29 กองกำกับการ 1 กองบังคับการฝึกพิเศษ ตชด. (ค่ายพระรามหก)
5. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
|
|
|
ลักษณะโครงการ : |
1. ดูแลรักษาพื้นที่ป่าไม้บริเวณต้นน้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี ท้องที่ตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง ตำบลแก่งกระจาน ตำบลสองพี่น้อง ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน ตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี และตำบลหนองพลับ ตำบลพุสวรรค์ ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2. จัดพัฒนาที่ดินในรูปหมู่บ้านป่าไม้ และควบคุมการบุกรุกป่าไม้ท้องที่ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน และท้องที่ตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง - จัดตั้งหน่วยพิทักษ์ป่า เพื่อป้องกันรักษาป่าต้นน้ำลำธาร
3. การเพิ่มมาตรฐานและประสิทธิภาพในการดูแลป่าระยะยาว
4. การแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำกินบริเวณต้นน้ำลำธาร
5. การพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพของราษฎร
|
|
|
ผู้ได้รับประโยชน์ : |
ราษฎรในพื้นที่ป่าไม้บริเวณต้นน้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี ราษฎรตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง ตำบลแก่งกระจาน ตำบลสองพี่น้อง ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน ตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี และตำบลหนองพลับ ตำบลพุสวรรค์ ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
|
|
|
ผลการดำเนินงานและกิจกรรมโครงการ : |
- จัดตั้งหน่วยพิทักษ์ป่า เพื่อดูแลรักษาป่า เนื้อที่ 2.2 ล้านไร่ จำนวน 7 หน่วย
- ทำการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานประจำหน่วยต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความสามารถในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์โครงการฯ และแสดงแนวเขตพื้นที่โครงการฯ
- ทำการอพยพชาวไทยภูเขาที่อยู่ในพื้นที่ล่อแหลมต่อการบุกรุกทำลายป่าและความ มั่นคงภายในประเทศมาอยู่รวมกัน โดยจัดแปลงที่อยู่อาศัย และที่ทำกินให้ครอบครัวละ 7.8 ไร่ นอกจากนี้ได้จัดเตรียมแปลงที่อยู่อาศัยไร่ จำนวน 264 แปลง ๆ ละ 1 ไร่ เพื่อจัดระเบียบชุมชนชาวไทยพื้นราบ
- จัดตั้งศูนย์ศึกษาการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมที่พักแรม เพื่อสร้างจิตสำนึกของเยาวชนในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ
- จัดสร้างอาคารเรียนพร้อมดำเนินการจัดการเรียน การสอนให้กับเด็กนักเรียน และจัดการเรียนการสอนผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จในระดับ ชั้นประถมศึกษาตอนต้น
- ส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยส่งเสริมการปลูกไม้ผล พืชผักสวนครัว และการส่งเสริมด้านหัตถกรรม นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนเครื่องอุปโภค-บริโภค ตลอดจนการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
- ติดตั้งระบบกังหันน้ำในพื้นที่เกษตรกรรมของราษฎรที่ทำการอพยพจำนวน 2 แห่ง แนวทางดำเนินการในระยะต่อไป ได้แก่
- จัดหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินรองรับการอพยพ
- ฟื้นฟูสภาพธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี
- พัฒนาระบบน้ำและการใช้น้ำในการทำการเกษตรกรรม ตลอดจนสร้างสระเก็บน้ำในพื้นที่ทำกินของราษฎร
- พัฒนาอาชีพการเกษตรและการหัตถกรรมที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ และวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขา |
|
|
ความสำเร็จของโครงการ : |
นับเป็นระยะเวลากว่า 50 ปีมาแล้วที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกือบทุกพื้นที่ของประเทศ จนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือราษฎรทั่วประเทศกว่า 4,100 โครงการ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยและชาวจังหวัดเพชรบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริและแนวทางด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของพสกนิกร
ทั้งนี้ โครงการดูแลรักษาป่าไม้บริเวณป่าละอูบนและเขาพะเนินทุ่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีพื้นที่ประมาณ 15,000 ไร่ เป็นโครงการดูแลพื้นที่ป่าไม้บริเวณต้นแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเมื่อประมาณปี 2517 2518 ได้มีราษฎรชาวไทยภูเขา (กะเหรี่ยง กะหร่าง) เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ บริเวณป่ายางกลัดเหนือ ยางน้ำกลัดใต้ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของโครงการ หมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ บริเวณป่าห้วยโสก ท้องที่ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
ภายหลังโครงการดำเนินการแล้วเสร็จยังผลมาซึ่งประโยชน์มากมาย ดังนี้
1. เพื่อระงับ ยับยั้ง การบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี (ป่าละอูบน -เขาพะเนินทุ่ง)
2. เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ให้ยั่งยืนต่อไป
3. เพื่อมิให้เกิดสภาวะความแห้งแล้งขึ้นและการขาดแคลนน้ำ เพื่อเกษตรกรรม เพื่อการอุปโภคบริโภคในท้องที่
4. เพื่อให้ป่าเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำสายสำคัญสายต่าง ๆ
5. เพื่อให้ราษฎรผู้ยากไร้มีที่ดินเป็นหลักแหล่งและเป็นของตนเองไม่ให้ไปบุกรุกป่า
6. เพื่อให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย -พม่า
7. เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติรูปแบบต่าง ๆ
|
|
|
|
|