ลักษณะโครงการ : |
เป็นโครงการส่งเสริมศิลปาชีพอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ทรงพระราชทานให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมอาชีพให้แก่ราษฎร ในด้านการทอผ้า การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การมัดหมี่ การปักผ้า และเป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชเสาวนีย์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของราษฎรยากจน ที่ทรงรับเป็นสมาชิกมูลนิธิศิลปาชีพ 540 คน ผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ 17 คน และนักเรียนทุนในพระบรมราชานุเคราะห์ 2 คน โดยเป็นส่วนประสานงานและเก็บรวบรวมผลิตภัณฑ์ของสมาชิกส่งจำหน่ายยังกองศิลปาชีพ สวนจิตรลดา
สำหรับโครงการส่งเสริมศิลปาชีพอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีพื้นที่ดำเนินการ ได้แก่
1. อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม
2. อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม
3. อำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น
4. อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
5. อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์
(5 อำเภอ 13 ตำบล 63 หมู่บ้าน)
การดำเนินการตามพระราชเสาวนีย์
กลุ่มทอผ้าไหม
- มีสมาชิก 529 คน
- ส่งผ้าไหมจำหน่าย กรส. สวนจิตรลดา จำนวน 722 ชิ้น
- ความยาว 7,844.80 เมตร คิดเป็นเงิน 2,353,440 บาท
- จำหน่ายในพื้นที่ จำนวน 4,519 ชิ้น คิดเป็นเงิน 4,115,800 บาท
กลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม
- มีสมาชิก 55 คน
- สมาชิกกลุ่มส่วนใหญ่เป็นสมาชิกกลุ่มทอผ้าไหมด้วย เส้นไหมที่เหลือจากการทอผ้าไหม ส่งจำหน่าย กรส. สวนจิตรลดา จำนวน 15.45 กก. คิดเป็นเงิน 18,540 บาท
กลุ่มแกะสลักไม้
- มีสมาชิก 5 คน ไม่มีผลิตภัณฑ์จำหน่าย
กลุ่มเขียนลาย
- มีสมาชิก 2 คน ไม่มีผลิตภัณฑ์จำหน่าย
กลุ่มจักสาน
- มีสมาชิก 1 คน
- ส่งผลิตภัณฑ์ จำหน่าย กรส. สวนจิตรลดา จำนวน 18 ชิ้น คิดเป็นเงิน 2,160 บาท
|
ผลการดำเนินงานและกิจกรรมโครงการ : |
การพัฒนาฝีมือ กลุ่มผ้าไหมบ้านหัวนาไทยได้รับการฝึกอบรมจากศูนย์หัตถกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านโพน จังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดมหาสารคาม บวกกับภูมิปัญญาของสมาชิกสามารถทอผ้าไหมได้มากกว่า 20 ลาย กระทั่งได้รับพระมหากรุณาจากองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงรับไว้เป็นสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพบ้านโคกก่อง ตำบลหนองแดง อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ทำให้กลุ่มมีชื่อเสียงในด้านการทอผ้าไหม ดังวิสัยทัศน์ของกลุ่มทอผ้าไหมแพรวาบ้านหัวนาไทย คือ ผลิตภัณฑ์หลากหลาย สร้างลายมัดหมี่ สวยเนื้อแน่นชั้นดี มีมาตรฐาน เป็นศูนย์บริการฝึกอาชีพ ขึ้น ด้านบนผ้าไหมมัดหมี่บ้านหัวนาไทย มีลวดลายการถักทอตามจินตนาการจากของใช้และจากรูปสัตว์ที่พบเห็นในชุมชน และลายที่ประยุกต์ เช่น ลายสร้อยดอกหมาก ลายขอพระเทพ ลายขอทบ ลายดอกมะลิ (ลายกงน้อย) ลายแมงมุม ลายแมงสีเสียด ลายแมงป่อง ลายเต่าน้อย ลายขอกนก ลายหัวใจว่าง ลายพรม 5 ลายพรม 7 ลายนกยูง ลายกุญแจ ลายนั่งเทียน ลายปลาหมึก ลายสามลำ ลายไก่ ลายผีเสื้อ ลายนาคน้อย ลายพื้นน้ำ ลายข้าวสาร ลายเพลงผ้า ลายกระจับร่าย และลายเพลงผ้า โดยมีลายที่เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มทอผ้าไหมแพรวาบ้านหัวนาไทย คือ ลายกงน้อย และมีความโดดเด่นที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของกลุ่มอื่น คือ ใช้วัตถุดิบเส้นไหมแท้ทั้งเส้นยืนและเส้นพุ่ง สีสวยสม่ำเสมอ สีไม่ตก เนื้อแน่น หนาขึ้นด้านบนสืบสานภูมิปัญญาสู่รุ่นลูกหลาน ทำให้คนในชุมชนมีการรวมกลุ่มกันเพื่อรับความรู้ สร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชน เกิดความผูกพัน โดยได้ร่วมกันจัดผ้าป่าเพื่อสมทบทุนกลุ่มเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท
|
ความสำเร็จของโครงการ : |
เมื่อปี 2535 ก่อนเข้าเป็นสมาชิกโครงการฯ ราษฎรในพื้นที่มีรายได้เฉลี่ยจำนวน 9,000 บาท/ครอบครัว/ปี จากการที่พระองค์ทรงรับราษฎรเข้าเป็นสมาชิกโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ได้ส่งเสริมอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ ทำให้ปัจจุบันมีรายได้ เฉลี่ย 24,687 บาท/ครอบครัว/ปี ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม จำนวน 15,687 บาท/ครอบครัว/ปี
กิจกรรมที่กองทัพบก ได้ให้หน่วยงานดำเนินการ
- โครงการปลูกหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริ
- ปลูกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ จำนวน 137,600 ต้น
- ปลูกเพื่อสาธิตและขยายพันธุ์ จำนวน 4,200 ต้น
- รวมทั้งสิ้น จำนวน 141,800 ต้น
- โครงการปลูกต้นราชพฤกษ์ เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมมายุครบ 80 พระชันษา ในปี 2550 ได้ดำเนินการปลูกต้นราชพฤกษ์ภายในโครงการฯ และในพื้นที่ของสมาชิก จำนวน 99 ต้น
- การปลูกต้นไม้เทิดพระเกียรติตามโครงการ พลิกฟื้นผืนป่า ด้วยพระบารมี มีนโยบายให้ดำเนินการปลูกเป็นประจำทุกเดือน เบื้องต้นได้ดำเนินการสร้างเรือนเพาะชำ เพื่อทำการเพาะกล้าพันธุ์ไม้สำหรับปลูกตามโครงการ และขอรับการสนับสนุนจากศูนย์เพาะชำกล้าไม้ สำหรับพักกล้าไม้ จำนวน 1,000 ต้น ที่ผ่านมาได้ดำเนินการปลูกไปแล้วภายในพื้นที่สาธารณประโยชน์ โรงเรียน วัด และแนวฝาย จำนวน 9 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 1,440 ต้น
กองพลพัฒนาที่ 2 ได้ริเริ่มนโยบายเพิ่มเติมให้หน่วยขึ้นตรงที่รับผิดชอบโครงการฯ ทุกโครงการ ได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาดำเนินการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางพระราชดำริขึ้น เพื่อทำการอบรมให้ความรู้และเป็นแหล่งความรู้ให้กับสมาชิกโครงการและประชาชนในพื้นที่นำไปปฏิบัติ กิจกรรมที่ดำเนินการประกอบด้วย
1. การปลูกพืชผักสวนครัว
2. การปลูกพืชไม้เลื่อยทำโดมปลูกบวบ
3. การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก
4. การใช้จุลินทรีย์ชีวภาพเพื่อการเกษตรและสิ่งแวดล้อม
5. การเลี้ยงเป็ดเทศและไก่พันธุ์พื้นเมือง
|