โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส

พระราชดำรที่ตั้งโครงการ วัตถุประสงค์โครงการ

ลักษณะโครงการ ผู้ได้รับประโยชน์ ผลการดำเนินงานและกิจกรรมโครงการ

ความสำเร็จของโครงการ ประมวลภาพโครงการ

   
พระราชดำริ :
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
 
แนวพระราชดำริ :

เมื่อปี พ.ศ. 2544 ราษฎรบ้านละเวง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงพิจารณาช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ เนื่องจากปัจจุบันได้ลดลงเป็นอันมาก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานคำแนะนำให้จัดประชุมหารือผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องทางด้านต่างๆ และได้ทรงมีพระราชวินิจฉัยให้จัดตั้งโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2544 เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน และในโครงการดังกล่าวมีกิจกรรมการฟื้นฟูระบบนิเวศสัตว์น้ำ โดยการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล (ปะการังเทียม) ซึ่งใช้วัสดุจำพวกคอนกรีต ท่อระบายน้ำ ซากเรือ หรือ วัสดุขนาดใหญ่ที่ไม่ใช้งานแล้ว เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีแหล่งทำการประมงสำหรับชาวประมงขนาดเล็กเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังช่วยป้องกันแหล่งทำการประมงใกล้ฝั่งจากเครื่องมือทำการประมงที่มีอัตราการทำลายสัตว์น้ำวัยอ่อนสูง เช่น อวนลาก อวนรุน เป็นการสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำชายฝั่งและให้มีการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นแหล่งสำหรับส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล เช่น กีฬาตกปลา และดำน้ำ
และเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ในโอกาสที่คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัส ใจความว่า ให้ร่วมมือกันจัดสร้างปะการังเทียมเพิ่มเติม ทำให้หลายหน่วยงานร่วมแรงร่วมใจในการที่จะจัดสร้างปะการังเทียมในพื้นที่ของโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส เช่น กระทรวงคมนาคมโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยสนับสนุนตู้รถสินค้า จำนวน 273 ตู้ กรุงเทพมหานครสนับสนุนรถยนต์เก็บขยะมูลฝอย จำนวน 198 คัน กองทัพบกสนับสนุนรถถัง รุ่น ที 69 จำนวน 25 คัน และกองทัพไทยสนับสนุนรถยนต์ 3 คัน โดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน ซึ่งมอบหมายให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานงานหน่วยงานต่างๆ กำหนดจุดพิกัดที่จัดวางปะการังเทียมร่วมกับชาวประมงท้องถิ่น และควบคุมการจัดวางวัสดุให้ถูกต้องตามที่ชาวประมงต้องการ นอกจากนั้นยังมีหลายหน่วยงานที่ร่วมให้การสนับสนุนพร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการดำเนินงาน เช่น กรมเจ้าท่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย กองทัพเรือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมศุลกากร

 
ที่ตั้งของโครงการ :

พื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลของจังหวัดปัตตานีและจังหวัดนราธิวาส

   
วัตถุประสงค์โครงการ :

1. เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือแก่เกษตรในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดปัตตานี   และจังหวัดนราธิวาส
2. เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์และที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งทะเลตลอดจนบริเวณแหล่งน้ำภายใน  Lagoon ที่เชื่อมโยงกับชายฝั่งทะเลของจังหวัดปัตตานีและจังหวัดนราธิวาส ได้แก่การฟื้นฟูป่าชายเลน พื้นที่ชุ่มน้ำ และแนวหญ้าทะเล
3. เพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำโดยการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำชนิดต่างๆที่เหมาะสม  ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำชายฝั่งทะเลและแหล่งน้ำภายใน  เพื่อให้แพร่ขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
4. เพื่อสร้างปะการังเทียมและซั้งให้เป็นที่อยู่อาศัยและหลบภัยของสัตว์น้ำ  และเป็นแหล่งการทำการประมงพื้นบ้านที่อนุญาตให้ใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงได้  และประเมินผลความชุกชุมของสัตว์น้ำทั้งชนิดและปริมาณ
5. เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและทำการประมงเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำรวมถึงการแปรรูปสัตว์น้ำให้แก่ชาวประมงและผู้สนใจในพื้นที่

   
หน่วยงานผู้ดำเนินงาน /หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง :

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) , การรถไฟแห่งประเทศไทย , กรมทางหลวง , กองทัพเรือ , กรุงเทพมหานคร , กรมเจ้าท่า , กรมประมง , ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งนราธิวาส และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดปัตตานี

 

ลักษณะโครงการ :

- ฟื้นฟูระบบที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ และปะการังเทียมไม่น้อยกว่า 100 ตารางกิโลเมตร
- ฟื้นฟูระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล เช่น ป่าชายเลน แนวหญ้าทะเล พื้นที่ชุ่มน้ำ และเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญของสัตว์น้ำต่างๆ เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 50,000 ไร่
- ชาวประมงได้รับการฝึกอบรม ในเรื่องการแปรรูปสัตว์น้ำ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรประมงอย่างถูกต้องและเหมาะสม


ผู้ได้รับประโยชน์ :

ชาวประมงชายฝั่งพื้นบ้านในจังหวัดปัตตานีและจังหวัดนราธิวาส ซึ่งประกอบด้วย 8 อำเภอ 61 หมู่บ้าน ซึ่งมีชาวประมงประมาณ 7,900 ครัวเรือน


ผลการดำเนินงานและกิจกรรมโครงการ :

โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริในปี 2545 หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ  พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดโครงการฯ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม  2544 ณ ชายหาดบ้านละเวง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี  ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชดำริให้มีการดำเนินการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล บริเวณจังหวัดปัตตานีและจังหวัดนราธิวาส แล้วได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการฯ  ประกอบด้วยท่านที่ปรึกษาและคณะกรรมการจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดร.จรัลธาดา  กรรณสูต เป็นเลขานุการคณะกรรมการ คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ดำเนินการเป็น 2  ขั้นตอน  คือ  ขั้นตอนที่ 1  งานเร่งด่วน  และขั้นตอนที่ 2  งานระยะยาว  สำหรับงานเร่งด่วนนั้น  ได้มีการสร้างความเข้าใจที่ดีให้เกิดขึ้นกับชาวประมงขนาดเล็กและชาวประมงพาณิชย์  ซึ่งก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลี้ยงและเชิญให้ชาวประมงทั้งสองฝ่ายมาพบกัน และเกิดความร่วมมือในการที่จะแบ่งใช้ทรัพยากรอย่างถูกต้อง ซึ่งทำให้เกิดความสามัคคี และแบ่งปันกัน ในการใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน 
          ในส่วนของทางราชการ มีการสร้างแนวปะการังเทียมขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ และเป็นที่ทำมาหากินของชาวประมงแบบพื้นบ้าน  การสร้างปะการังเทียม  แบบทั่วไปใช้วิธีวางแท่งคอนกรีตโปร่ง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตั้งงบประมาณ และก่อสร้างเป็นเวลานาน จึงเห็นควรให้หาวัสดุใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม  มาลงเป็นปะการังเทียมในระยะยาว  เมื่อหน่วยงานต่างๆ  ได้ทราบถึงแนวพระราชดำริ  ก็ได้แสดงความจำนงที่จะถวายวัสดุใช้แล้ว  เพื่อจัดสร้างเป็นปะการังเทียม  ได้แก่  การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ถวายตู้รถไฟจำนวน  208  ตู้  และกรมทางหลวงแผ่นดินได้ถวายท่อคอนกรีตชำรุด  จำนวน 707  ท่อ  เพื่อนำมาจัดวางเป็นปะการังเทียม  ได้อย่างรวดเร็ว  แต่เนื่องจากตู้รถไฟเป็นวัสดุที่ทำจากเหล็ก  และมีขนาดใหญ่  จำเป็นจะต้องมีการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเสียก่อน  เพื่อจะมั่นใจได้ว่าไม่อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม 
          โครงการได้รับพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าจาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  สยามมกุฎราชกุมาร  ในการที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กองทัพเรือทำการศึกษาในเรื่องอิทธิพลของกระแสน้ำ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนไปและจะมีผลต่อชายฝั่งอย่างใดหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับทราบข้อมูลทางวิชาการว่า  หากนำตู้รถไฟลงไปวางในระดับน้ำที่ลึกเกิน  20  เมตร  จะไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชายฝั่งทะเล  ทางด้านชีววิทยาและเคมี  กรมประมงได้ทำการศึกษาถึงผลกระทบของเหล็กที่มีต่อน้ำทะเล  และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ  ซึ่งได้รับผลว่าไม่มีอันตราย
          เมื่อคณะกรรมการมีความมั่นใจ  จึงอนุมัติให้ดำเนินการ  จัดสร้างปะการังเทียมหรือแหล่งอาศัยสัตว์น้ำได้  โดยสำนักงาน  กปร.  จะได้สนับสนุนทางด้านงบประมาณในการขนย้ายและทิ้งตู้รถไฟลงในทะเล
          กรมประมง  ได้สำรวจจุดที่เหมาะสมในการทิ้งตู้รถไฟและทำการประชุมชาวบ้านซึ่งมีอาชีพประมงขนาดเล็ก  เพื่อตกลงกันในจุดที่จะดำเนินการ  ซึ่งเห็นควรให้ทิ้งเสริมระหว่างแนวปะการังเทียมเก่า  ซึ่งกรมประมงได้ดำเนินการไว้แล้วตั้งแต่ปี  2542 - 2543  ในบริเวณทะเลนอกฝั่ง  อำเภอสายบุรี  มีระยะห่างจากฝั่งประมาณ 11 - 12  กิโลเมตร  และความลึกของน้ำประมาณ  25 - 30  เมตร
          การรถไฟได้ดำเนินการลำเลียงตู้รถไฟที่จะมอบให้โครงการไปรวบรวมไว้ที่ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด  อำเภอสัตหีบ  จังหวัดชลบุรี  ซึ่งเป็นพื้นที่ของกองทัพเรือ  ตู้รถไฟทั้งหมดเป็นตู้สินค้า  ขนาดความยาว  6.5  เมตร  กว้างและสูงเท่ากัน  2.18  เมตร  มีเหล็กหนา  3.2  มิลลิเมตร  มีน้ำหนักเมื่อถอดล้อออกแล้ว  5.5  ตัน  การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการถอดล้อทำความสะอาดตู้ให้ปราศจากคราบน้ำมัน  เปิดประตูทั้งสอง  และเชื่อมให้เปิดอย่างถาวร และได้ส่งมอบตั้งแต่วันที่  5  มีนาคม  2545  จนแล้วเสร็จ  ในวันที่  26  มีนาคม  2545  กองทัพเรือได้กรุณาช่วยลำเลียงตู้รถไฟดังกล่าวไปยังท่าเทียบเรือ  กรมประมงได้จ้างเหมาเรือบรรทุกสินค้าขนาด  5,000 ตัน  ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนเป็นเงิน  5.6  ล้านบาท  โดยแบ่งการลำเลียงเป็น  2  เที่ยว  เที่ยวที่ 1  จำนวน  110  ตู้  ในวันที่  27  มีนาคม  2545  โดยเรือใช้เวลาเดินทางจากสัตหีบถึงอำเภอสายบุรี  ใช้เวลาประมาณ  2  วัน  และได้จัดวางตู้รถไฟลงในทะเลในวันที่  30  มีนาคม  2545  และเที่ยวที่ 2  ในวันที่  4  เมษายน  2545  การจัดวางตู้รถไฟได้กระทำเป็น  5  กอง  กองละ  41 ถึง 42  ตู้ การทิ้งใช้วิธีใช้เครนหย่อนลงไปจนถึงพื้นใต้น้ำการวาง ๆ ป็นกลุ่มแบบไม่เป็นระเบียบ
          ในส่วนของท่อคอนกรีตระบายน้ำ  ซึ่งกรมทางหลวงน้อมเกล้าฯ ถวาย  ประกอบด้วยท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 60, 80, 100 และ  120 เซนติเมตร  ได้ดำเนินการจัดวางบริเวณทะเลหน้าบ้านทอน  อำเภอเมือง  จังหวัดนราธิวาส  โดยห่างจากฝั่ง  10  กิโลเมตร  ความลึกของน้ำประมาณ  21  เมตร  ใช้เรือแพลำเลียงเขากวางของกรมประมง  ซึ่งเป็นแพสำหรับทิ้งปะการังเทียมมีจำนวนทั้งหมด  707  ท่อ  ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเมื่อ  วันที่  18  มีนาคม  2545
          สำหรับการดำเนินงานในปลายปี  2545  จะได้มีการวางปะการังเทียมแบบบล๊อคคอนกรีต  โดยงบประมาณปกติของกรมประมง  ในจังหวัดปัตตานีและจังหวัดนราธิวาสเพิ่มขึ้นอีกรวม  4  จุด  จุดละประมาณ  700  ก้อน  ในพื้นที่ดังต่อไปนี้ 
          1.   บ้านแฆแฆ  อ.ปะนาเระ  จ.ปัตตานี
          2.   บ้านลุ่ม  อ.สายบุรี  จ.ปัตตานี
          3.   บ้านละเวง  อ.ไม้แก่น  จ.ปัตตานี
          4.   ชุมชนกาแลตาแป  อ.เมือง  จ. นราธิวาส

          นอกจากนี้ สำนักงาน กปร. ได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตสัตว์น้ำให้ศูนย์พัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งนราธิวาส จำนวน 2,679,000 บาท และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดปัตตานี จำนวน  2,466,000 บาท   รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 5,145,000
ในปี 2546 จะได้มีการวางปะการังแบบเทียมแบบบล็อคคอนกรีตเป็นบริเวณกว้างในทะเลหน้าจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดปัตตานี
โดยใช้งบประมาณปกติของกรมประมง จำนวน  29  ล้านบาท ซึ่งจะได้กำหนดจุดพิกัดต่อไป  นอกจากนี้สำนักงาน กปร.   ได้ตกลงว่าจะให้การสนับสนุนงบประมาณในปี 2546   อีก 1 ปีแก่ศูนย์พัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยตอนล่าง เพื่อทำการติดตามประเมินผลการวางปะการังเทียมในพื้นที่โครงการ   ตลอดจนให้งบประมาณสนับสนุนศูนย์พัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งนราธิวาสและสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง  จ. ปัตตานี ในการผลิตสัตว์น้ำเพื่อปล่อยในพื้นที่โครงการ
กรมประมงได้มีแผนที่จะวางตู้รถไฟเก่าเพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำอีก 100 ตู้  
ส่วนในปีงบประมาณ 2547 กรมประมงจะต้องตั้งงบปกติเพื่อดำเนินการในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องและต่อเนื่องในโครงการฯ ต่อไป

 

ความสำเร็จของโครงการ :

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีต่อพสกนิกรชาวประมงพื้นบ้านชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างตลอดแนวแถบจังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส ทรงเห็นความทุกข์ยากของชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งนับวันจะจับปลาและสัตว์ทะเลอื่นๆ ได้น้อยลงไปทุกที ไม่คุ้มกับทุนรอนที่เสียไป
โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส จึงเกิดขึ้น โดยมีกรมประมงเป็นแม่งานใหญ่ ในการระดมสรรพกำลังทั้ง นักวิชาการ นักวิจัย ที่เชี่ยวชาญ ด้านการประมงทางทะเล มาร่างโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทางทะเล การทำแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล หรือ การทำ “ปะการังเทียม” เป็นการเลียนแบบธรรมชาติ ที่ไม่ทำลายสภาพแวดล้อมใต้ทะเลที่มีอยู่เดิม เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
การทำ “ปะการังเทียม” หรือ “บ้านปลา” คือ การนำวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน มีน้ำหนักมาก สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ นำไปวางรวมกลุ่มกันในบริเวณชายฝั่งที่เหมาะสม เพื่อให้เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล

   


ที่มาของข้อมูล : กรมประมง. (2553). โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ. เอกสารประชาสัมพันธ์โครงการ.

ผู้ที่เกี่ยวข้อง :
กลุ่มผู้ใช้น้ำ …………………………………………………………………………
เบอร์ติดต่อ : โทรศัพท์ / โทรสาร 0 3233 740
ที่อยู่ …………………………………………………………………………………………………

 



Copyright 2010 - Office of The Royal Development Projects Board. All rights reserved.