ประกาศข่าว:
  • ขนาดตัวอักษร:
  • -ก ก+
TH
EN
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.)
Office of the Royal Development Projects Board (ORDPB)

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม 2561 พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคใต้ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประกอบด้วย โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลาอันเนื่องพระราชดำริ จังหวัดสงขลา

        โดยเวลาประมาณ 9.15 น. องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยัง สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อรับฟังบรรยายสรุปภาพรวม และติดตามผลการดำเนินงานโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
         โครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำริในการแก้ไขและบรรเทาอุทกภัยเมืองหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2531 ความว่า “...การแก้ไขและบรรเทาน้ำท่วมที่ควรพิจารณาดำเนินการ น่าจะได้แก่การขุดคลองระบายน้ำขนาดใหญ่ ให้ทำหน้าที่แบ่งน้ำจากคลองอู่ตะเภา หรือช่วยรับน้ำที่ไหลลงมาท่วมตัวอำเภอหาดใหญ่ให้ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาโดยเร็ว นอกจากนั้น หากต้องการที่จะป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนและพื้นที่ธุรกิจให้ได้ผลโดยสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่ก่อสร้างคลองระบายน้ำเสร็จ ก็ควรพิจารณาสร้างคันกั้นน้ำรอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พร้อมกับติดตั้งระบบสูบน้ำออกจากพื้นที่ไม่ให้ท่วมขังตามความจำเป็น ทั้งนี้ ให้พิจารณาร่วมกับระบบของผังเมือง ให้มีความสอดคล้องและได้รับประโยชน์ร่วมกันด้วย” ต่อมาปี 2532 กรมชลประทาน จึงได้ดำเนินการขุดลอกคลองธรรมชาติ จำนวน 4 สาย รวม 46.9 กิโลเมตร เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้น และในปี 2544 ดำเนินการขุดคลองระบายน้ำเพิ่มเติมอีก 7 สาย รวม 39.265 กิโลเมตร และในปี 2554 ดำเนินการซ่อมแซมระบบโทรมาตรและการคาดการณ์/ระบบเตือนภัย ปรับปรุงคลองระบายน้ำ ร.1 พร้อมอาคารประกอบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการขุดลอกคลองระบายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ จำนวน 14 สาย ตามแผนงานฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัย และเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานชื่อคลองระบายน้ำสายที่ 1 (ร.1) โครงการบรรเทาอุทกภัยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ว่า “คลองภูมินาถดำริ” มีความหมาย คือ คลองระบายน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริขุดขึ้น ซึ่งโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ฯ สามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ 158,000 ไร่ ช่วยระบายน้ำได้ประมาณ 930 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 10.6 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับเป็นแหล่งสำรองน้ำจืดเพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง ปัจจุบันจังหวัดสงขลา ได้เสนอโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสงขลา ได้มีการจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองระบายน้ำ ร.1 เพื่อให้สามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และลดระดับความเสียหายจากอุทกภัยช่วงฤดูฝนในพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562
        จากนั้น เวลาประมาณ 13.00 น. องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านต้นส้าน หมู่ที่ 6 ตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชดำริ สรุปความว่า ให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองหลาบริเวณตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อเก็บกักน้ำในลุ่มน้ำคลองหลาที่มีอยู่มาก ส่งไปช่วยโครงการฝายทดน้ำคลองจำไหรให้ได้ผลสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และสามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร ซึ่งอยู่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำและบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย กรมชลประทาน จึงได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อส่งน้ำไปช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในพื้นที่ 4 ตำบล คือ ตำบลคลองหลา ตำบลคลองหอยโข่ง ตำบลทุ่งลาน ตำบลโคกม่วง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา บริเวณท้ายเขื่อนเก็บกักน้ำคลองหลา รวมพื้นที่ประมาณ 18,000 ไร่ ส่งผลให้ราษฎรมีน้ำทำการเพาะปลูกได้ตลอดปี รวมทั้งเป็นแหล่งน้ำสำหรับเพาะเลี้ยงปลาได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย ทั้งนี้ ในระยะต่อไปกรมชลประทานมีแผนที่จะดำเนินงานโครงการอ่างพวงเชื่อมอ่างเก็บน้ำคลองจำไหร และอ่างเก็บน้ำคลองหลาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำคลองหลา ในการกระจายน้ำเข้าสู่แปลงนาของเกษตรกรได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

 


Cr : นายช่างภาพ สำนักงาน กปร