วันที่ 3 ตุลาคม 2533
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการสูบน้ำบ้านโคกกูแว มีพระราชดำริให้ส่งน้ำจากคลองมูโนะให้พื้นที่เกษตรกรรมบ้านโคกกระท่อม บ้านโคกอิฐ-โคกใน และบ้านโคกชุมบก เพื่อใช้ล้างดินเปรี้ยวและปลูกข้าว โดยให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ เข้าไปช่วยเหลือราษฎรปรับปรุงดินในพื้นที่บ้านโคกอิฐ-โคกใน เพื่อให้สามารถปลูกข้าวได้ บ้านโคกอิฐ-โคกใน เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านโคกไผ่ หมู่ที่ 2 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีพื้นที่ทั้งหมด 6,915 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม และมีที่ดอนเป็นที่ตั้งชุมชน ลักษณะดินมี 2 ประเภท คือ ดินบนพื้นที่ดอน เป็นทรายจัด มีชั้นดานอินทรีย์แทรกอยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 70-100 เซนติเมตร ส่วนบริเวณที่ลุ่มเป็นดินเปรี้ยวจัด มีปัญหาในการใช้ประโยชน์ทางการเกษตร ประชากรในหมู่บ้านมี 14 ครัวเรือน มีที่ดินถือครองครอบครัวละ 7-9 ไร่ หรือเฉลี่ย 7.4 ไร่ พื้นที่ทำนาก่อนปี 2533 ถูกทิ้งร้างว่างเปล่าเนื่องจากมีปัญหาดินเปรี้ยว น้ำท่วมและขาดน้ำในช่วงแล้ง ดินขาดความอุดมสมบูรณ์
วันที่22 สิงหาคม 2534
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทอดพระเนตรการพัฒนาพื้นที่เพื่อการปลูกข้าวโคกอิฐ-โคกใน
วันที่ 9 ตุลาคม 2539
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรแปลงทดสอบถ่ายทอดเทคโนโลยีบ้านโคกอิฐ-โคกใน
วันที่28 กันยายน 2536
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการโคกกูแว ตำบลพร่อน บริเวณพื้นที่ส่งน้ำชลประทาน ที่บ้านโคกอิฐ-โคกใน และบริเวณพื้นที่ขอบพรุที่อาคารบังคับน้ำบางเตย 5 ในเขตโครงการลุ่มน้ำบางนรา จังหวัดนราธิวาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งที่บรรดาราษฎรและข้าราชการทุกคนในที่นั้นรู้สึกซาบซึ้ง และประทับใจไม่รู้ลืมก็คือ
"
แต่ก่อนนี้ เรามายืนตรงนี้
เห็นพื้นที่ที่เขาทำนาน้อยกว่านี้ แต่ว่าเป็นจุดที่เขียวที่สุด
ใช้ได้
นี่ที่มาที่นี่ ดีใจมาก
ที่ทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนร่วมกันทำ
และชาวบ้านร่วมกันทำ
และชาวบ้านร่วมกัน
ช่วยกันทำ
เห็นผลจึงต้องมาที่นี่ จะอธิบายได้
"
"...สภาพพื้นที่ดินเปรี้ยวในบ้านโคกอิฐ และบ้านโคกใน เกษตรกรมีความต้องการจะปลูกข้าว ทางชลประทานได้จัดส่งน้ำชลประทานมาให้ ก็ให้พัฒนาที่ดินเปรี้ยวเหล่านี้ให้ใช้ประโยชน์ได้ และให้ประสานงานกับชลประทาน จะต้องควบคุมระดับน้ำใต้ดินอยู่เท่าใด
"
พระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันที่3 กันยายน 2533
"...เราเคยมาโคกอิฐ-โคกใน มาดูเขาชี้ตรงนั้นๆ เขาทำแต่ว่าเขาได้เพียง 5 ถัง 10 ถัง แต่ตอนนี้ได้ขึ้นไปถึง 40-45 ถัง ก็ใช้ได้แล้ว ต่อไปกินจะไม่เปรี้ยวแล้ว เพราะว่าทำให้เปรี้ยวเต็มที่แล้ว โดยที่ขุดอะไรๆ ทำให้เปรี้ยวแล้วก็ระบาย รู้สึกว่านับวันเขาจะดีขึ้น อันนี้สิเป็นชัยชนะที่ดีใจมาที่ใช้งานได้แล้ว ชาวบ้านเขาก็ดีขึ้น แต่ก่อนชาวบ้านเขาต้องซื้อข้าว เดี๋ยวนี้เขามีข้าวอาจจะขายได้
"
พระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว