โครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดำเนินการตามแนวพระราชดำริโดยน้อมนำเอา ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญานำทาง โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของชุมชนตั้งแต่ร่วมกันคิด ร่วมกันวางแผน ร่วมดำเนินการ ร่วมประเมินผล และร่วมแก้ไขปัญาเพื่อให้ชุมชนได้มีโอกาสในการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะรับการพัฒนาด้านต่างๆ จากภายนอกที่เรียกว่า การระเบิดจากข้างใน แนวคิดในการพัฒนาของหมู่บ้านยามชายแดน ทั้งด้านการพัฒนาคนและการพัฒนาพื้นที่ จะเน้นแบบค่อยเป็นค่อยไปมุ่งให้สมาชิกในชุมชน พออยู่พอกิน เป็นอันดับแรกก่อนที่จะพัฒนาสู่ขั้นสูงต่อไป ทั้งนี้ ได้จัดตั้งเป็นชุมชนถาวรแนวชายแดนด้านทิศตะวันตกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และยกฐานะเป็นหมู่บ้านที่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ลักษณะการปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 ตลอดจนกำหนดแนวเขตแดนให้ชัดเจนเพื่อลดปัญหาการกระทบกระทั่งและความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ และเสริมสร้างศักยภาพของพื้นที่และให้โอกาสแก่ราษฎรอาสาสมัครบ้านยามชายแดนได้มีความพร้อมในการพัฒนา และสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างยั่งยืน ทั้งได้ฝึกอบรมราษฎรให้สามารถรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองได้ รวมทั้งสามารถแจ้งการเข้าเตือนภัยให้กับกลุ่มบ้านเครือข่ายและส่วนราชการได้อย่างทันเวลา
ปัจจุบัน กองทัพภาคที่ 3 ได้ดำเนินงานโครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดน สนองพระราชเสาวนีย์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว จำนวน 3 โครงการประกอบด้วย โครงการจัดตั้งหมู่บ้านชาวไทยภูเขาตามพระราชเสาวนีย์บ้านปางคอง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน โครงการจัดตั้งหมู่บ้านชาวไทยภูเขาตามพระราชเสาวนีย์ บ้านมะโอโค๊ะ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก และโครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านแม่ส่วยอู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นอกจากการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถแล้ว กองทัพภาคที่ 3 ยังได้จัดตั้ง องค์กรประชาชนอย่างเป็นระบบ สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อผนึกกำลังประชาชนต่อสู้กับปัญหาภัยคุกคาม ต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน