สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสลับกับเนิน เนื้อที่รวม ๑๖,๕๑๑ ไร่ ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา พันธุ์ข้าวที่ปลูกคือ พันธุ์เล็บนก และพันธุ์บางแก้วซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของพื้นที่ ส่วนอาชีพรองลงมาได้แก่ การทำสวนผลไม้ ทำไร่ การทำสวนยาง ประมง เลี้ยงสัตว์และประกอบอาชีพรับจ้าง ส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างยากจน ถือครองที่ดินทำกินเฉลี่ยครัวเรือนละประมาณ ๕-๑๐ ไร่ บางรายต้องเช่าที่ดินทำกิน เอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกินส่วนใหญ่เป็นโฉนด และน.ส.๓ก. น้ำที่ใช้เพื่อการเกษตรส่วนใหญ่ได้มาจากน้ำฝน และจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้แก่คลองบางแก้วและคลองปากพะเนียด ซึ่งมีต้นน้ำมาจากเทือกเขาบรรทัด ไหลรวมกันลงคลองบางแก้ว และคลองปากพะเนียดสู่ทะเลสาบสงขลาบริเวณบ้านอาพัด และบ้านปากพะเนียด ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีแหล่งน้ำผิวดิน ได้แก่ ห้วย หนอง คลอง บึงต่าง ๆ และแหล่งน้ำใต้ดิน โดยมีการขุดเจาะบ่อบาดาลและบ่อน้ำตื้นมาใช้ประโยชน์ในการอุปโภค บริโภคเกือบทุกหมู่บ้าน
จากการสอบถามราษฎร กำนัน สมาชิก อบต. ตลอดจนหน่วยงานในพื้นที่พบว่าปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรประกอบด้วย
๑.ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ เดิมบริเวณดังกล่าวได้ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำอยู่แล้ว โดยน้ำจะท่วมประมาณ ๔-๕ วัน และปริมาณน้ำก็จะลดลงโดยไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรของราษฎร แต่ในช่วง ๒-๓ ปีที่ผ่านมาพบว่า น้ำจะท่วมขังนานขึ้นประมาณ ๑-๒ เดือน โดยมีระดับความสูงวัดจากถนนขึ้นมาประมาณ ๐.๓๐-๐.๔๐ ม. และหากวัดจากที่นาจะมีความสูงประมาณ ๑.๕-๒.๐ ม. ทำให้บ้านเรือนและผลผลิตทางการเกษตรได้แก่นาข้าว พืชสวน พืชไร่ ได้รับความเสียหาย จำนวน ๑๘,๐๐๐ ไร่ (เฉพาะหมู่บ้านเป้าหมาย ๗ หมู่บ้าน ประมาณ ๕,๐๐๐ ไร่) นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงของราษฎรด้วย จากการสอบถามพบว่าสาเหตุของปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจาก ทรบ. โคกขาม กั้นคลองปากพะเนียด และถนนกั้นขวางทางน้ำไหลก่อนลงทะเลสาบสงขลาทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้เต็มที่
๒.ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ทำให้ราษฎรไม่สามารถประกอบอาชีพทางการเกษตรได้อย่างเต็มที่ ข้าวปลูกได้เฉพาะนาปีเท่านั้น ทำให้เกษตรกรหันไปทำการเกษตรประเภทอื่น เช่น การปลูกยางพารา ซึ่งมีความต้องการน้ำน้อย เป็นต้น
๓.ปัญหาน้ำเค็มจากทะเลสาบสงขลารุกล้ำเข้ามายังคลองบางแก้ว และคลองปากพะเนียด ในช่วงฤดูแล้ง ระยะทางประมาณ ๒ กิโลเมตร ส่งผลให้ราษฎรที่ประกอบอาชีพทางการเกษตรที่ต้องใช้น้ำจืดได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
๔.ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ปัจจุบันราษฎรในพื้นที่ส่วนใหญ่ใช้น้ำจากบ่อน้ำตื้น บ่อบาดาล และบางหมู่บ้านมีน้ำประปาใช้ แต่ประสบปัญหาเนื่องจากคุณภาพของน้ำไม่ดี น้ำขุ่น เป็นคราบ บางแห่งเกิดสนิม ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
๕.ปัญหาดินขาดความอุดมสมบูรณ์ สภาพดินเป็นกรด เนื่องจากการใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยขาดการบำรุงรักษา
๖.ปัญหาความยากจนและการว่างงาน เนื่องจากราษฎรในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร เมื่อประสบกับปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม น้ำเค็ม ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างเต็มที่ จึงประสบปัญหาความยากจนมาโดยตลอด ผลจากการสำรวจ จปฐ. พบว่า จากประชากรรวม ๘๙๕ ครัวเรือน มีรายได้ต่ำกว่า ๒๐,๐๐๐ บาท/คน/ปี จำนวน ๕๘๐ ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๘๐
ความต้องการของราษฎรในพื้นที่
๑.ปรับปรุง ทรบ.โคกขามบริเวณคลองปากพะเนียดให้สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
๒.ขุดลอกคลองปากพะเนียด และคลองบางแก้ว ตั้งแต่บริเวณด้านท้ายน้ำของทรบ.โคกขาม จนถึงทะเลสาบสงขลาเพื่อให้การระบายน้ำดีขึ้น
๓.บริเวณถนนที่กีดขวางช่องทางน้ำไหล ให้จัดทำท่อลอดเพิ่มเติมเพื่อให้น้ำระบายได้รวดเร็วขึ้น และบริเวณใดที่มีท่อลอดแบบทรงกลม ขอให้เปลี่ยนเป็นท่อแบบสี่เหลี่ยม
๔.ก่อสร้าง ปตร.คลองบางแก้ว และปตร. คลองปากพะเนียด เพื่อป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็ม
๕.ขอให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าเชียดก่อสร้างคลองไส้ไก่ U-SHAPE ไปยังที่ดินทำกินของราษฎร
๖.ก่อสร้างฝายในคลองบางแก้ว (บริเวณบ้านหนองเมา) ช่วงระหว่างหมู่ที่บ้านทุ่งแซะ หมู่ที่ ๕ และบ้านพรุ หมู่ที่ ๗
๗.มีระบบประปาในหมู่บ้าน
๘.ต้องการอาชีพทางการเกษตรเพิ่มเติม ได้แก่ ประมง ปศุสัตว์ ไร่นาสวนผสม ฯลฯ