แนวทางการดำเนินงาน
ทรงพระราชทานแนวทางการดำเนินงานให้แก่ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดังนี้
1.ทำการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจัย เพื่อแสวง หาแนวทางและวิธีการพัฒนาทางด้านต่างๆ ให้เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ศูนย์ศึกษาการ พัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริจึงเปรียบเสมือน ต้นแบบ ของความสำเร็จที่จะเป็นแนวทางและตัวอย่าง ให้แก่พื้นที่อื่นๆ ได้ทำการศึกษา
2.มีการแลกเปลี่ยนสื่อสารระหว่างนักวิชาการ นักพัฒนาส่งเสริมและเกษตรกร การศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจัยต่างๆที่ได้ผลแล้ว ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ได้จริงในพื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจาก พระราชดำริจึงเป็นแหล่งผสมผสานวิชาการและปฏิบัติ การเป็นแหล่งศึกษาทดลองของนักวิชาการ เป็นแหล่งแลก เปลี่ยนถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ของนักพัฒนาส่งเสริม และเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อปฏิบัติเป็นอาชีพของเกษตรกร
3.มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ เน้นการพัฒนา แบบผสมผสาน อยู่บนหลักการและพื้นฐานของการพึ่งพา ตนเองตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์ศึกษาการ พัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นตัวอย่างที่ดีของ แนวความคิดแบบสหวิทยาการ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดในพื้นที่ จัดเป็นแบบจำลองของพื้นที่และรูปแบบการ พัฒนาที่ควรจะเป็นให้เป็นตัวอย่างว่าในพื้นที่ลักษณะหนึ่งๆ นั้น จะสามารถใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ได้โดยวิธีใดบ้าง มิใช่ การพัฒนาเฉพาะทางใดทางหนึ่ง ให้พยายามใช้ความรู้มาก สาขาและแต่ละสาขาให้ประโยชน์เกื้อหนุนกับการพัฒนา สาขาอื่น
4.การประสานงานระหว่างส่วนราชการแบบ บูรณาการ จัดเป็นแนวทางและวัตถุประสงค์สำคัญยิ่ง ประการหนึ่ง แนวทางการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการ พัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริเน้นการประสานงาน การประสานแผน และการบริหารจัดการระหว่างกรม กอง และส่วนราชการต่างๆ ให้เกิดเป็นจริงขึ้น
5.เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ มีการศึกษา ทดลองและสาธิตให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินงาน พร้อมกันในทุกด้าน ทั้งด้านการฟื้นฟูสภาพป่า การพัฒนา ที่ดิน การเพาะปลูกพืช การปศุสัตว์ ประมง ตลอดจนการ พัฒนาทางด้านสังคมและงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ดังพระราชดำรัสให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจาก พระราชดำริทำหน้าที่เสมือน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มี ชีวิต (Living Natural Museum) เป็นการให้บริการ ณ จุดเดียว หรือศูนย์รวมการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ (One stop service) โดยการเป็นศูนย์ฝึกอบรมหรือศูนย์เรียนรู้ ด้านเกษตรกรรมครบวงจร ซึ่งเกษตรกรและผู้เยี่ยมชมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการประกอบอาชีพการ เกษตร และด้านศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านเพื่อพัฒนาชีวิต และความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพัฒนา (Development Tourism) ให้นักท่องเที่ยวและประชาชน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้เข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อน ใจ ซึ่งนอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินแล้วยังได้เรียนรู้ เรื่องการเกษตรและศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ช่วยกระตุ้น จิตสำนึกของคนในชาติให้ตระหนักถึงการเป็นสถานศึกษา
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจาก พระราชดำริตระหนักถึงภารกิจนี้ จึงได้ทำการขยายพันธุ์ กล้าหญ้าแฝกสำหรับแจกจ่ายให้เกษตรกรและผู้สนใจ ได้ นำเอาไปปลูกในพื้นที่ของตนเอง พร้อมทั้งจัดทำเอกสาร คำแนะนำการปลูกขยายพันธ์หญ้าแฝก การปลูกหญ้าแฝก เพื่อดึงน้ำสร้างดินในพื้นที่แห้งแล้งดินเลว ส่งเสริมการ พัฒนาและรณรงค์การปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ จัดทำแปลงเรียนรู้สาธิตและส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกเพื่อ ป้องกันการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ที่มีน้ำไหลบ่า กัดเซาะหน้าดินและในพื้นที่ลาดเท การปลูกหญ้าแฝก บริเวณขอบบ่อป้องกันดินพัง และการปลูกหญ้าแฝกเพื่อ สงวนความชื้นในดินในแปลงเพาะปลูกพืชไร่และไม้ผล เป็นต้น
6.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์พืชสมุนไพร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งสวนป่าสมุนไพร เขาหินซ้อนขึ้นในปี พ.ศ. 2523 เพื่อให้เป็นแหล่งปลูกรวบรวม พืชสมุนไพรชนิดต่างๆ สำหรับการศึกษาวิจัยทางวิชาการ เผยแพร่การใช้ประโยชน์ และเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ ของนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ปัจจุบันมีพืช สมุนไพรปลูกรวบรวมไว้ประมาณ 909 ชนิด
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการศึกษา วิจัยการ ใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรสำหรับการป้องกัน รักษา บรรเทา หรือกำจัดอาการของโรคบางชนิดที่เกิดขึ้นทั้งใน คน สัตว์ และพืช ทั้งนี้ เพื่อลดโทษและพิษภัยของสารเคมี ที่ตกค้างในร่างกาย เพื่อสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environment friendly) และเพื่อคืนสู่ธรรมชาติ (Back to the nature) อันเป็นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชสมุนไพรและผลิต ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรเพื่อสร้างรายได้เสริม และเพื่อเพิ่ม มูลค่าสินค้าเกษตร
7.เป็นศูนย์ฝึกวิชาชีพ
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ได้ให้บริการฝึกอบรมวิชาชีพด้านเกษตรกรรม สมบูรณ์แบบและศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน รวมทั้งการซ่อม เครื่องยนต์ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ให้แก่เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป เพื่อสนองพระราชดำริ ในการให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นศูนย์เรียนรู้ อันเป็นการเสริมสร้างความรู้ความสามารถ ในการประกอบอาชีพ ฝึกหัดให้เกิดความชำนาญ และเป็น แนวทางในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างเสริมรายได้ เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปสามารถติดต่อขอเข้ารับการฝึก อบรมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
นอกจากนี้ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ยังถือเป็นภารกิจในการเป็น แหล่งเรียนรู้และให้การฝึกงานแก่นักเรียน และนักศึกษา จากสถาบันการศึกษาทั่วไปอีกด้วย