โครงการศึกษาอบรมหลักสูตร “เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และเสริมสร้างเครือข่ายขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” (พพร.) รุ่นที่ 8
1. หลักการและเหตุผล
1.1 ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศ์
มีพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ครอบคลุมทุกพื้นที่และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ผ่านการน้อมนำไปปฏิบัติทั้งโดยหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน จนบังเกิดผลสัมฤทธิ์แห่งการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต
ไม่เพียงแต่เท่านั้น แต่ยังเป็นองค์ความรู้ที่มีคุณค่ามหาศาล เพราะผ่านกระบวนการศึกษา ทดลอง ประยุกต์ใช้
หลักวิชาการ หลักประสบการณ์ และหลักภูมิสังคมเข้าด้วยกัน อาทิ หลักการทรงงาน ทฤษฎีใหม่ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น ความรู้เหล่านี้มีอยู่เป็นจำนวนมากที่อยู่ในรูปของประสบการณ์ที่สั่งสมไว้ในแต่ละบุคคลที่ปฏิบัติงานสนองพระราชดำริหรือที่น้อมนำเอาพระราชดำริไปประยุกต์ใช้ ซึ่งได้มีความพยายามจากหลายฝ่าย หลายหน่วยงาน ที่จะดึงเอาความรู้ในตัวบุคคลเหล่านี้ออกมาบริหารจัดการเป็นองค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังเช่น การจัดการเรียนการสอน
การจัดประกวดเพื่อหาตัวแบบในแต่ละด้าน หรือการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาตามแนวพระราชดำริ หรือศูนย์การเรียนรู้การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น
1.2 รัฐและรัฐบาลได้แสดงออกซึ่งเจตนารมณ์ที่จะน้อมนำแนวทางการพัฒนาตามพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้บังเกิดผลยิ่งๆ ขึ้นเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ที่มุ่งส่งเสริมการดำเนินการตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นับแต่ฉบับที่ 9 เป็นต้นมาจนถึงฉบับที่ 12 ก็น้อมนำการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
1.3 ด้วยความตระหนักถึงคุณค่าแห่งองค์ความรู้ในการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอันมีเป้าหมายที่ประโยชน์สุขของประชาชนและความเจริญมั่นคงของประเทศ ตลอดจนเพื่อพิทักษ์ รักษา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สอดรับกับรัฐธรรมนูญ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนบริหารราชกรแผ่นดิน สำนักงาน กปร. จึงกำหนดยุทธศาสตร์การศึกษาและขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริของสำนักงาน กปร. ตลอดจนแผนแม่บทศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (พ.ศ.2560 – 2564) ที่มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ในการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งวิธีหนึ่งที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวคือการจัดฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในลักษณะองค์รวมของการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมทั้งการเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อนำเสนอความรู้ ประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการพัฒนา ตามแนวพระราชดำริและการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมารวบรวมเป็นองค์ความรู้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผน การพัฒนาระบบการบริหารจัดการ การติดตามประเมินผลการดำเนินการต่อไป
ซึ่งจากการจัดฝึกอบรมในหลักสูตรนี้มาแล้ว 7 รุ่น ปรากฏว่ามีผลการประเมินผลการฝึกอบรมจากผู้เข้ารับการอบรมอยู่ในระดับดีมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเนื้อหาหลักสูตร ด้านวิทยากร ด้านการบริหารการฝึกอบรมและด้านผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ อีกทั้งยังปรากฏว่าผู้ผ่านการอบรมนำเอาความรู้ ความเข้าใจที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในงานของตนและพัฒนาความสัมพันธ์ในลักษณะของเครือข่าย สมดังวัตถุประสงค์ของโครงการ
โดยโครงการอบรมในรุ่นที่ 7 นั้น มีหน่วยงานต่างๆ เสนอชื่อผู้สมัครเข้ารับการอบรมเป็นจำนวนมาก ดังนั้น
ในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 จึงได้กำหนดโครงการศึกษาอบรมเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และเสริมสร้างเครือข่ายขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (พพร.) เป็นรุ่นที่ 8 ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2562 ขึ้น
2. วัตถุประสงค์
1) เพื่อเทิดทูนและพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์
2) เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับการพัฒนาความรู้และความเข้าใจ ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้หลักการและประสบการณ์ในทางปฏิบัติเกี่ยวกับพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นประโยชน์
ในการพัฒนาองค์ความรู้ในเรื่องนี้ และความรู้ความเข้าใจของผู้เข้ารับการศึกษาอบรมให้ดียิ่งขึ้น
3) เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้และการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
4) เพื่อสนับสนุนการดำเนินภารกิจตามยุทธศาสตร์สำนักงาน กปร. พ.ศ.2561 –2564
3. เนื้อหาหลักสูตร
ดำเนินการฝึกอบรมที่เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติ ในเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การจัดการเครือข่ายและการจัดการความรู้ บริบทแวดล้อมที่เป็นทั้งโอกาสและอุปสรรคต่อการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนยุทธศาสตร์ของสำนักงาน กปร. และความเชื่อมโยงกับนโยบายและระบบแผนและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ โดยใช้ระยะเวลาการฝึกอบรมรวม 23 วันทำการ แบ่งเป็น
1) บรรยายในชั้นเรียน 11 วัน
2) ดูงานในประเทศ 12 วัน
4. ผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 50 คน ประกอบด้วยผู้มีคุณสมบัติ ดังนี้
1) ข้าราชการพลเรือนซึ่งดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ถึงชำนาญการพิเศษหรืออำนวยการต้น
2) ข้าราชการประเภทอื่น หรือพนักงานในสังกัดองค์กรอิสระของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่าตาม 1)
3) ข้าราชการทหารหรือตำรวจ ซึ่งครองยศตั้งแต่พันตรีแต่ไม่เกินพันเอก
4) บุคลากรในภาคส่วนอื่นเช่น องค์กร มูลนิธิที่ไม่แสวงกำไร อาจารย์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ ต้องปฏิบัติงานหรือประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
5) อายุไม่เกิน 53 ปี ในวันฝึกอบรม
6) มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ หรือการเผยแพร่ขยายผล
การพัฒนาตามแนวพระราชดำริหรือตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
5. วิธีการฝึกอบรมและสถานที่ฝึกอบรมและระยะเวลา
5.1 วิธีการอบรม ประกอบด้วย การบรรยาย การสัมมนา การประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน
การจัดทำเอกสารวิชาการแบบกลุ่ม
5.2 สถานที่ศึกษาอบรม สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
5.3 ระยะเวลาการศึกษาอบรม ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน – 17 สิงหาคม 2562 รวม 23 วัน (อบรมสัปดาห์ละ 3 วันเป็นส่วนใหญ่)
6. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1) ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อเพิ่มพูน ความรู้ ประสบการณ์ และมีความเข้าใจที่ชัดเจนอย่างเป็นองค์รวมในหลักการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และผลของการนำไปประยุกต์ใช้ที่เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับแผนและนโยบายในระดับต่าง ๆ
2) ประโยชน์ต่อการบริหารจัดการองค์ความรู้ด้านการพัฒนาตามแนวพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้รับจากการถ่ายทอดประสบการณ์ของวิทยากรและผู้เข้ารับการฝึกอบรม
3) สนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจตามยุทธศาสตร์ของสำนักงาน กปร. การดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ และการเผยแพร่ขยายผลปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้ประสบผลสัมฤทธิ์ยิ่งขึ้น
4) สถาบันพระมหากษัตริย์ได้รับการยกย่องเทิดทูน และมีเครือข่ายในการพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย
7. เกณฑ์การสำเร็จหลักสูตร
1) มีเวลาเข้าอบรมและศึกษาดูงานในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 (19 วัน)
2) นำเสนอประสบการณ์ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตามแนวพระราชดำริตามที่หลักสูตรกำหนด (เช่น การเล่าประสบการณ์หน้าชั้นเรียน)
3) กลุ่มที่สังกัดส่งรายงานการศึกษาของกลุ่ม
4) ผ่านการทดสอบวัดความรู้ด้วยคะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม
8. การประเมินผล
1) ผู้สำเร็จการอบรมตามเงื่อนไข ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมด
2) ผู้ผ่านการอบรมได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยอย่างน้อย 1 ระดับในแต่ละหมวดการฝึกอบรมเมื่อเทียบกับก่อนการอบรม
3) ผู้ผ่านการอบรมมีความพึงพอใจต่อเนื้อหาหลักสูตร วิทยากร กลุ่มเป้าหมาย เทคนิควิธีการฝึกอบรม และการบริหารจัดการฝึกอบรม ในระดับมากขึ้นไปไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 และระดับปานกลางขึ้นไปไม่น้อยกว่าร้อยละ 90
4) ผู้เข้ารับการอบรมผ่านเกณฑ์การสอบวัดความรู้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
5) ผู้เข้ารับการอบรมได้นำความรู้ ประสบการณ์ ความสัมพันธ์ในลักษณะเครือข่ายไปใช้ประโยชน์ในงานของตนอย่างสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
โครงการฝึกอบรม พพร. 8
ดาวน์โหลดใบสมัคร
ประกาศรายชื่อ