สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามผลการดำเนินงานศูนย์สาขาที่ 3 โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ
วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ศูนย์กีฬามูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ไปยังศูนย์สาขาที่ 3 โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ หมู่ที่ 4 ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยมี พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี นายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการ กปร. ข้าราชการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และราษฎร เฝ้าฯ รับเสด็จ จากนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กราบบังคมทูลรายงานผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานของศูนย์สาขาที่ 3 โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ
การเสด็จพระราชดำเนินพื้นที่ศูนย์สาขาที่ 3 โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ ครั้งนี้ นับเป็นการเสด็จพระราชดำเนินในพื้นที่เป็นครั้งที่ 7 ซึ่งศูนย์สาขาแห่งนี้เป็น 1 ใน 5 ศูนย์สาขาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2526 ให้จัดตั้งโครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ ขึ้นเพื่อจัดสรรที่ดินให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกินและดำเนินการสาธิตการใช้ประโยชน์และพัฒนาพื้นที่ดินเปรี้ยวจัด รวมถึงเป็นหมู่บ้านตัวอย่างในการพัฒนาอาชีพด้านการปศุสัตว์ ต่อมา ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งเป็นศูนย์สาขาที่ 3 ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และมีคณะปฏิบัติการในพื้นที่ ทำหน้าที่กำหนดแผน เป้าหมาย ควบคุม ดูแล รวมทั้งพิจารณาแก้ไขปัญหาในการดำเนินงานให้เกิดผลสำเร็จ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะอนุกรรมการดำเนินงานโครงการศูนย์สาขาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และคณะกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีคณะองคมนตรี เป็นประธาน และรองประธาน รวมทั้งมีสำนักงาน กปร. ให้การสนับสนุนและประสานการดำเนินงานให้เป็นไปตามแนวพระราชดำริ
โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ มีพื้นที่โครงการรวมทั้งสิ้น 1,500 ไร่ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 พื้นที่ศูนย์สาธิตการเลี้ยงสัตว์โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ จำนวน 516 ไร่ ส่วนที่ 2 พื้นที่จัดสรรที่ดินให้แก่เกษตรกรสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยที่ทำกิน จำนวน 409 ไร่ ปัจจุบันมีสมาชิก 49 ครัวเรือน 129 คน ซึ่งได้รับการจัดสรรที่ดินครัวเรือนละ 6 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัย รายละ 3 ไร่ และที่ดินทำกิน รายละ 3 ไร่ และส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ส่วนรวมของหมู่บ้าน จำนวน 575 ไร่
สภาพพื้นที่โครงการฯ ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมขัง ดินมีสภาพเป็นกรดจัด และมีอินทรียวัตถุมาก ชุดดินที่พบในพื้นที่ประกอบด้วยชุดดินเชียรใหญ่ และชุดดินกาบแดง โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จึงได้เข้าดำเนินการปรับสภาพพื้นที่โดยการขุดคู-ยกร่อง และปรับสภาพดินให้มีความเหมาะสมในการปลูกพืช ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 เป็นต้นมา พร้อมกับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตจำพวกวัสดุปูน ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ควบคู่ไปกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการบริหารจัดการพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดให้สามารถใช้ประโยชน์ทำการเกษตร ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่โครงการฯ ส่วนใหญ่ปลูกไม้ยืนต้น พืชผักหมุนเวียน ไม้ผลผสมผสานร่วมกับการปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน การเลี้ยงปศุสัตว์ รวมทั้งการทำประมง ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2565 มีรายได้เฉลี่ย 213,746 บาท/ครัวเรือน
นอกจากนี้ กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างระบบคูส่งน้ำ คลองระบายน้ำ คันกั้นน้ำ และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ ก่อสร้างถังเก็บน้ำพร้อมระบบประปา เพื่อกระจายน้ำสนับสนุนกิจกรรมอุปโภคบริโภค การเลี้ยงปศุสัตว์ และการเกษตรในพื้นที่โครงการฯ
พื้นที่ศูนย์สาขาที่ 3 โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชกระแสพร้อมกับได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 100,000 บาท เพื่อก่อสร้างอาคารขึ้นเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เมื่อปี พ.ศ. 2528 ปัจจุบันมีเด็กนักเรียนในความดูแล จำนวน 33 คน เด็กนักเรียนส่วนใหญ่มาจากหมู่บ้านต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ตำบลโฆษิต และบางส่วนของตำบลนานาค ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ และตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินโดยรถลากพ่วงพระที่นั่ง ไปยังศูนย์สาธิตการเลี้ยงสัตว์ โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ ซึ่งเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2527 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่โครงการ ปัจจุบันมีพื้นที่ดำเนินการ จำนวน 516 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่อาคารสำนักงาน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ จำนวน 24 ไร่ และพื้นที่แปลงหญ้า จำนวน 492 ไร่ ประกอบด้วยแปลงหญ้าตัดสด และแปลงหญ้าแทะเล็ม อีกทั้ง ศูนย์สาธิตฯ ยังได้ผลิตไก่ลูกผสมพื้นเมือง เป็ดเทศ เป็ดอี้เหลียง เพื่อส่งเสริมให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ศูนย์สาขาที่ 3 รวมไปถึงพื้นที่ขยายผลของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งได้ดำเนินการควบคู่ไปกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ การจัดฝึกอบรม การสาธิต และการดูแลรักษาสัตว์ในเบื้องต้น
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินโดยรถลากพ่วงพระที่นั่ง ไปยังบ้านของเกษตรกรตัวอย่าง นายแป แลดไธสง เพื่อทอดพระเนตรกิจกรรมภายในแปลงเกษตรนายแป แลดไธสง เป็นคนจังหวัดพะเยา และในปี พ.ศ. 2541 ได้ย้ายเข้ามาอาศัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2542 ได้เริ่มทำการเกษตรแบบเชิงเดี่ยว ในพื้นที่ที่ได้รับการจัดสรร จำนวน 3 ไร่ โดยใช้แรงงานจากสมาชิกในครัวเรือน จำนวน 4 คน ปัจจุบันได้พัฒนามาทำการเกษตรแบบผสมผสานจนประสบผลสำเร็จ เป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ด้านการทำเกษตรแบบผสมผสานโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีกิจกรรมที่สำคัญภายในแปลง อาทิ การปลูกพืชผักยกแคร่ ผักลอยฟ้า ไม้เลื้อย เลี้ยงปลาในกระชัง เลี้ยงวัว ไก่พันธุ์พื้นเมือง เป็ดไข่ เป็ดเทศ เป็นต้น ทำให้มีผลผลิตสำหรับบริโภคและจำหน่ายตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2565 มีรายได้เฉลี่ย 99,790 บาท ส่งผลให้ตนเองและครอบครัวมีความกินดี อยู่ดี มีรายได้ที่มั่นคง และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินโดยรถลากพ่วงพระที่นั่ง ไปยังศาลารวมใจ ฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ และคณะปฏิบัติการฯ ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก ต่อมา นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ในฐานะประธานอนุกรรมการดำเนินงานโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ถวายพระพรชัยมงคล และขอพระราชทานพระราโชวาท เพื่อเป็นสิริมงคลและแนวทางการดำเนินงานของศูนย์สาขาที่ 3 โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ หลังจากนั้น ได้พระราชทานพระราโชวาทแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
#สำนักงานกปร