สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จังหวัดพิษณุโลก
วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก การนี้ นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. พร้อมด้วยผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กปร. เฝ้าฯ รับเสด็จ
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพความรู้ด้านเกษตรกรรมและปศุสัตว์ ให้แก่พลทหาร สำหรับสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนนำไปขยายผลสู่ชุมชน ที่สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ภายหลังปลดประจำการ
ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จังหวัดพิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 ดำเนินการจัดตั้งโครงการทหารพันธุ์ดีขึ้นเมื่อปี 2560 เนื่องด้วยพื้นที่แห่งนี้มีความพร้อมด้านสถานที่ สำหรับจัดตั้งเป็นศูนย์ผลิตพันธุ์พืช และสัตว์ ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ประชาชน และกำลังพล ตามแนวทางพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับพัฒนาและส่งเสริมอาชีพด้านเกษตรกรรม ต่อไป
ในการนี้ ทรงเปิดศูนย์พันธุ์กบพระราชทาน "เพื่อนช่วยเพื่อน" พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดย กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 104 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 ศูนย์ฯ นี้ได้รับพ่อแม่พันธุ์กบ จากศูนย์ผลิตพันธุ์กบพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 38 จังหวัดน่าน เพื่อเป็นพ่อแม่พันธุ์กบ มีการเพาะพันธุ์กบ สายพันธุ์หลัก 3 สายพันธุ์ คือ กบนาทุ่งกุลา กบนาจานนา กบนาพิษณุโลก และ สายพันธุ์ไขว้ 6 สายพันธุ์ ทุกชนิด สามารถเลี้ยงได้ แต่สายพันธุ์ที่เหมาะสมที่ดีสุดคือ แม่พันธุ์จานนา กับพ่อพันธุ์พิษณุโลก เนื่องจากทนต่อสภาพภูมิอากาศ โตไว อัตราการรอดสูง
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนทหารพันธุ์ดี ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ได้จัดกำลังพลเข้ารับการอบรม การปลูกพืชเพื่อผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์จากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่ปี 2560 และได้นำความรู้ดังกล่าว มาถ่ายทอดให้กับกำลังพลภายในหน่วย เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบในการผลิตเมล็ดพันธุ์พืช และการปลูกผักแบบอินทรีย์เพื่อขยายผลไปสู่ ครอบครัวกำลังพล และประชาชนที่สนใจ อาทิ
- ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทาน "เพื่อนช่วยเพื่อน" พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งดำเนินการจัดทำโครงการเพาะเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อผลิตและรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืชสำรอง สำหรับพระราชทานให้แก่ราษฎรในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างในยามที่เกิดภัยธรรมชาติ หรือในยามที่ประเทศไทยเกิดวิกฤติ ด้านเมล็ดพันธุ์พืช และมีการขยายเครือข่ายทหารพันธุ์ดี เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในแปลงเกษตรของครอบครัวกำลังพลในโครงการ นอกจากนี้ยังขยายผลไปสู่โรงเรียนต่างๆ ในโครงการชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย มีกิจกรรมปลูกผักพันธุ์ดี และต่อยอดเป็นธนาคารเมล็ดพันธุ์ดีของโรงเรียน ขยายผลไปสู่บ้านนักเรียนอีกด้วย
- ศูนย์ผลิตไม้ผล “เพื่อนช่วยเพื่อน” ภาคเหนือ ซึ่งมีการดำเนินการปลูกมะม่วง จำนวน 1,177 ต้น สำหรับเป็นต้นพันธุ์ เพาะขยายต้นกล้า เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชน ปัจจุบันขยายพันธุ์ไปแล้วจำนวน 1,174 ต้น
- โครงการฟาร์มภูมิใจสวนสมุนไพร ที่ดำเนินการจัดทำสวนสมุนไพร ตั้งแต่ปี2560 สำหรับเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้แก่ประชาชน และกำลังพล ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลรักษาสุขภาพต่างๆ อาทิ ลูกประคบสมุนไพร , ชารางจืดใบเตย และน้ำกระชาย
- โครงการปลูกผักปลอดภัย กองพันทหารขนส่งที่ 23 กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ดำเนินโครงการปลูกผักอินทรีย์ บนเนื้อที่ 56 ไร่ อาทิ กวางตุ้งฮ่องเต้ ผักสลัด พริกจินดา มะเขือเทศ โดยนำส่งผลผลิตให้โรงคัดบรรจุสินค้าทางการเกษตร กองทัพภาคที่ 3 เพื่อจำหน่ายสู่ตลาดชุมชนในราคาถูก และแจกจ่ายต้นพันธุ์ให้แก่ประชาชน บริเวณโดยรอบของค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จังหวัดพิษณุโลก
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโครงการเลี้ยงแพะพระราชทานพันธุ์แบล็คเบงกอล ในโครงการผลิตแพะพระราชทาน "เพื่อนช่วยเพื่อน" พื้นที่ภาคเหนือ จัดตั้งขึ้นเพื่อขยายพันธุ์แพะสำหรับพระราชทานให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ และกำลังพล ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ที่มีความประสงค์จะเลี้ยงแพะประกอบเป็นอาชีพ ปัจจุบันมีแพะในโครงการ จำนวน 134 ตัว และได้พระราชทานไปแล้ว จำนวน 321 ตัว ในการนี้ พระราชทานชื่อลูกแพะเพศเมีย ฝาแฝด จำนวน 1 คู่ ว่า "กิริยา" และ"มารยาท" ซึ่งเป็นแพะสายพันธุ์แบล็คเบงกอล เกิดเมื่อวันที่20 มกราคม 2567 และทอดพระเนตรวิดีทัศน์ การฝังไมโครชิพในแพะ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการฝังไมโครชิพลงไปในผิวหนัง แทนการเจาะหูสำหรับใส่แผ่นจำนวนตัวเลข โดยไมโครชิพจะมีความพิเศษ ตรงที่สามารถใส่ฐานข้อมูลพื้นฐานและการรักษา ตลอดจนประวัติต่างๆของแพะ
จากนั้นทอดพระเนตรการแสดงรวมพลแพะ มีเจ้าหน้าที่ทหารในโครงการ เป็นผู้ควบคุมการแสดงและฝึกซ้อม ซึ่งการฝึกใช้ระยะเวลา 1 เดือน โดยฝึกจากการใช้เสียงเรียก กำหนดช่วงเวลาฝึกเวลาเดิมของทุกวัน การฝึกแต่ละครั้งจะให้หญ้า หรือข้าวเกรียบเป็นรางวัล ภายหลังเรียกหา และจะค่อยๆฝึก ควบคู่กับการใช้เสียงแตร และเสียงเรียกสลับกัน เพื่อเป็นสัญญานเรียกรวมพล จนแพะเกิดเป็นความเคยชิน โอกาสนี้ มีพระราชดำรัส ชื่นชมการดำเนินโครงการและการขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนิน ทอดพระเนตร และติดตามการดำเนินงานของโครงการอย่างต่อเนื่อง และมีพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนาร่วมกับกองทัพบกดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดี เพื่อให้หน่วยทหารเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาความรู้ด้านเกษตรกรรม การผลิตเมล็ดพันธุ์พืช และเพาะพันธุ์สัตว์ ทั้งยังพระราชทานพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ถือเป็นเครื่องมือให้แก่กองทัพบกเพื่อขยายผลสู่ชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบ เป็นการสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้แก่ประชาชนชาวไทยอย่างยั่งยืน
#สำนักงานกปร